วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2553

ตำนานบ่อนไทย

ย้อนหลังไปตั้งแต่การทลาย "บ่อนคาสิโนเตาปูน"!!! จนมาถึงการบุกตะลุย "บ่อนประตูน้ำ"!!! อันลือลั่น ทำให้ "วงการพนัน" เมืองไทยเข้าสู่ภาวะถ่อยร่นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน นั่นเป็นเพราะนอก จากทั้ง 2 บ่อนข้างต้น จะถือเป็น "ตำนาน" และ "สัญลักษณ์" แห่งการดำรงอยู่ของ "บ่อนกลางกรุง" แล้ว ยังได้รับการการันตีเรื่องความปลอดภัยจากการ "รบกวน" ของเจ้าหน้าที่ด้วย.....

ปฏิบัติการ "เชือดบ่อน" ให้ "ผีพนัน" ดู ทั้ง 2 ครั้งครา ทำให้บ่อนเกือบทุกแห่งทั่วเมืองกรุงจำเป็นต้อง "เว้นวรรค" ปิดตัวเองลงชั่วคราว เพื่อรอจังหวะและโอกาสอันเหมาะสมของการ "คัม แบ๊ก" กลับมาเปิดให้บริการ "สาวกผีพนัน" อีกครั้ง.....

ทว่าในท่ามกลางคาสิโน "บ่อนกลางกรุง" ที่เกือบทั้งหมดตกอยู่ในอาการ "หัวหด" ก็ยังมีบ่อนที่ "ไม่กลัวน้ำร้อน" แอบเปิดให้บริการ "ทาสพนัน" ตามปกติ นั่นก็คือ

บ่อนบนดาดฟ้าชั้น 8 ของคอนโดมิเนียมปิ่นเกล้า เลขที่ 117/13 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ที่เซียนพนันและตำรวจรู้จักกันดีในชื่อ "บ่อนลอยฟ้า"!!! ซึ่งมี "จ่ามนัส" รับสมอ้างเป็นเจ้าของ

อย่างไรก็ตาม ในที่สุด "บ่อนจ่ามนัส" ก็ไม่รอดเงื้อมมือกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ที่ผ่านมา "ชุดเฉพาะกิจ" ของ "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส" จเรตำรวจแห่งชาติ ได้บุกเข้าทลายบ่อนแห่งนี้ พร้อมจับกุม "นักพนัน" ได้กว่า 400 คน.....การทลาย "บ่อนลอยฟ้า" ครั้งนี้ นำมาซึ่งคำสั่ง "ย้ายด่วน"!!! บรรดา "5 เสือโรงพัก" ตลิ่งชัน ให้ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)

ส่วน "พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา" ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7(ผบก.น.7) นายใหญ่ประจำท้องที่ ก็ถูก "ชู้ตเอาท์" ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) โดยไม่มีกำหนด โทษฐานบกพร่องปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ขึ้น ซึ่งถือว่าสมควรแล้วที่จะต้องมีการ "เด้งเข้ากรุ" ไว้ก่อน เพราะ "บ่อนลอยฟ้า" ที่ว่า ถูกจับถูกทลายมาแล้วซ้ำซาก และครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งที่ 3 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี

คำสั่ง "เด้งเข้ากรุ" ข้างต้นถือเป็น "สัญญาณเตือน" ที่ส่งไปถึงพลพรรค "สีกากี" ท้องที่ต่างๆ ที่หลังจากนี้คงทำงานแบบ "เช้าชามเย็นชาม" ปล่อยให้บ่อนการพนันผุดขึ้นในพื้นที่ไม่ได้ เพราะถ้า "ชุดเฉพาะกิจ" บุกไปเยือนเมื่อไร นั่นหมายถึงอนาคตบนเส้นทาง "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" จะดับวูบลงไปในทันที อย่างไรก็ดีมีตำรวจในหลายพื้นที่ที่ "สุ่มเสี่ยง" ต่อภาวะข้างต้นอยู่ไม่น้อย เพราะเมื่อสำรวจตรวจสอบรอบเมืองกรุง พบว่า ยังมีบ่อนพนันแอบเปิดให้บริการ "ทาสพนัน" อยู่หลายแห่ง ได้แก่.....

1."บ่อนคาสิโนเจ๊เป้า" สน.บางนา : อยู่ที่ ซ.สุขุมวิท 103 หรือ "ซ.อุดมสุข 26" เขตบางนา ป้ายถนนจะแจ้งว่า "แสนสุข 1" ที่ปากซอยจะมีโรงรับจำนำตั้งอยู่ด้านหน้า เมื่อเดินเข้าไปในซอยประมาณ 100 เมตร จะพบเป็นคอนโดฯ 3 ชั้น ดัดแปลงชั้น 2-3 เป็น "โต๊ะพนัน" มากกว่า 10 โต๊ะ ถ้าไม่เพียงพอสา มารถเปิดคอนโดฯ ข้างๆ กันไว้รองรับนักเล่นได้อีกมากกว่า 10 โต๊ะ

2."บ่อนเสี่ยถ่อ-เสี่ยแข็ง" สน.ทุ่งมหาเมฆ : อยู่ที่ ถ.พระราม 3 ทำเลการตั้งบ่อนจะเน้นมวล ชนคอยเป็น "เกราะกำบัง" ป้องกันตำรวจจู่โจม ด้านหลังติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเข้าติดกับ ถ.พระ ราม 3 ทางเข้าซอยโรงสี เข้าซอยประมาณ 100 เมตร เมื่อเข้าไปในลานจอดรถจะมีคนนำทาง เดินผ่านสลัมเข้าไป โดยมีกล้องทีวีวงจรปิดตรวจดูตลอดเส้นทางจนถึงประตูเหล็ก ผ่านเข้าสู่ประตู ด้านในอีก 2-3 ชั้น ผ่านโกดังร้าง จึงจะเข้าไปถึงบ่อนได้

3. "บ่อนตี๋พจน์" สน.ทองหล่อ : อยู่ภายใน "ซ.เอกมัย 30" ใช้กลยุทธ์ให้เช่าสถานที่สำหรับผู้ที่ ไม่มีสถานที่เล่นพนัน ลูกค้าสามารถมาเช่าโต๊ะเล่นพนันในสถานที่แห่งนี้ได้ ราคาโต๊ะละ 70,000 บาท

4."บ่อนคาสิโนตี๋ใหญ่" สน.ดินแดง : ตั้งอยู่บน ถ.ประชาสงเคราะห์ ซ.16 เข้าซอยติดกับปั๊มเอสโซ่ ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏไปประมาณ 100 เมตร เลี้ยวซ้ายเข้าไป ทั้ง 2 ข้างถนนจะพบตึกร้างหลายตึก แต่ละตึกจะมีคนคอยดูต้นทางให้ตลอดเวลา เมื่อเลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะเป็นตึกร้างสูง 5 ชั้น ถูกดัดแปลง เป็นอาคารจอดรถ ที่อยู่ติดกับอาคารบ้านพักของประชาชน ซึ่งส่วนมากจะมีรายได้จาก "บ่อนตี๋ใหญ่" เมื่อนักพนันจอดรถเรียบร้อยแล้วจะมีพนักงานดูแลบ่อนออกมารับรองตรวจตราคัดเลือก เอาแต่คนรู้ จักเข้าไปเล่นในบ่อนเท่านั้น รอบๆบ่อนจะมีตาข่ายสีเขียวสลับลวดหนามคลุมอย่างมิดชิด ตัวบ่อนดัด แปลงมาจากโกดังเก็บของ ติดเครื่องปรับอากาศอย่างดี

5."บ่อนอ๊อตโต้" : อยู่ที่ ซ.พัฒนาการ 30 ถ.พัฒนาการ เส้นทางเข้าบ่อนมี 2 ทาง คือ ซ.พัฒนาการ 30 ปากซอยมีร้านอาหารบุปผา แล้วเลี้ยวขวาบริเวณแยกตะวันทอง เข้าไปจนพบร้านเซ เว่น-อีเลฟเว่น อีกทางหนึ่งเข้าทางด้าน ซ.พัฒนาการ 22 ปากซอยมีธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองตัน เข้ามาจนถึงร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นเหมือนกัน หลังจากนั้นเลี้ยวเข้าไปผ่าน ซ.เกษมสันต์ 2 จนถึงสี่แยก ปั๊มบางจาก จึงเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง เข้าไปประมาณ 100 เมตร จะพบอาคารทับทิม ถึงตรงนี้จะมีพนักงานมาขับรถไปจอดกระจายไปทั่วบริเวณ จากนั้นจะมีพนักงานรับเข้าไปเล่นในบ่อน

6."บ่อนคาสิโนเจ๊เพี๊ยะ กิ่งเพชร" : อยู่ในซอย 5 ถ.เพชรบุรี นักพนันจะเข้าไปใน ซ.กิ่งเพชร หรือ เพชรบุรีซอย 7 เข้าไปเกือบสุดซอย แล้วเลี้ยวซ้าย เพื่อวนออกทาง ถ.เพชรบุรีซอย 5 ปากซอย ทางเข้าบ่อนจะมีร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น เมื่อขับรถผ่านประมาณ 50 เมตร จึงเลี้ยวซ้ายอีกครั้งจะมี ชาวบ้านคอยบริการนักเล่น พร้อมขับรถไปจอดกระจายอยู่ทั่วๆบริเวณนั้น นักพนันที่เข้าไปในบ่อนจะถูกตรวจตราอย่างเข้มงวดผ่านกล้องส่องดูต้นทาง และผ่านประตูเหล็ก 2 ชั้น จึงจะสามารถเข้าไปในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นได้

7."บ่อนเจ๊ง้อ บางรัก" : อยู่บน ถ.เจริญกรุง เยื้อง ซ.เจริญกรุง 46 ปากซอยเป็นร้านขายยาชื่อ วินเภสัช

8."บ่อนหวิน บางนา" : เปิดมานานกว่า 20 ปี อยู่บนถนนสุขุมวิท 101/1 ใน ซ.วชิรธรรมสาธิต ซอย 36 หรือซอย 38 นอกจากนี้ในวงการพนันยังทราบกันดีว่า "บ่อนเตาปูน"!!! ที่ถูกตำรวจกองปราบปรามงัด "ยุทธการ THE CAT"!!! บุกเข้าทลายจนเป็นที่ฮือฮาเมื่อปีก่อนได้ "คัมแบ๊ก" กลับมาเปิดให้บริการนักพนันอีกครั้งแล้วเช่นกัน
ขณะเดียวกันหลายปีก่อนเคยมีผลการวิจัยโดย "รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์" ระบุว่า บ่อนการพนันทั่วเมืองกรุง มีประมาณ 200 บ่อน แบ่งเป็น "บ่อนถาวรขนาดใหญ่" ซึ่งน่าสะพรึงกลัวและทรงอิทธิพลมีจำนวน 11 แห่ง ปัจจุบันถูกทลายไปแล้ว 3 แห่ง คือ "บ่อนเตาปูน-บ่อนประตูน้ำ-บ่อนลอยฟ้า" ลำดับต่อมาเป็นบ่อนขนาดกลางและขนาดเล็กอีกราว 50 แห่ง ขณะที่บ่อนในส่วนภูมิภาคมีขนาดใหญ่ใน 75 จังหวัด เฉลี่ย 75 แห่ง บ่อนขนาดกลางอย่างน้อยที่สุด 861 แห่ง ซึ่งแม้ว่าผลงานวิจัยดังกล่าวจะผ่านมาแล้วหลายปี แต่หลายฝ่ายเชื่อว่ามีบ่อนที่อยู่ในผลสำรวจเปิดให้บริการอยู่เกินครึ่ง.....

ด้าน พ.ต.อ.พินิต มณีรัตน์ รอง ผบก.น.4 ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.มณเฑียร ประทีปวณิช รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.การุณ กลิ่นประยูร ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ต.ณรงค์ เทศวิบูลย์ สวป. พ.ต.ต.สมิง รอดรัตษะ สว.สส. ไปช่วยราชการที่ บช.น. เป็นเวลา 30 วัน พร้อมตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หลังพบบกพร่อง ในการปราบปรามอบายมุข ปล่อยให้หน่วยงานอื่นเข้าจับกุมได้นักพนันเป็นจำนวนมาก เพราะ ผบช.น. กำชับให้ทุกท้องที่กวดขันดูแลอบายมุขอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แม้บางพื้นที่ผู้ประกอบการอาจฉวยโอกาสบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

สำหรับบ่อน คาสิโน“ปอ ประตูน้ำ” ได้ชื่อว่าเป็นบ่อนการพนันอมตะอีกแห่งหนึ่งใจกลางกรุง ที่แอบลักลอบเปิดรับลูกค้าระดับวีไอพีเข้าไปเล่นพนันมานานนับ 10 ปี เคยถูกตำรวจกองปราบปรามและท้องที่บุกจับกุมหลายครั้งก็ยังไม่เข็ดหลาบ ล่าสุดเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.การุณ กลิ่นประยูร ผกก.สน.พญาไท พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมิง รอดรัตษะ สว.สส. เพิ่งนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมนักพนันได้ 33 คน ยึดของกลางเป็นจำนวนมาก สุดท้ายเจ้าของบ่อนอาศัยช่วงจังหวะที่ตำรวจท้องที่ระดมกำลัง เข้าเตรียมพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า จึงลักลอบเปิดเล่นตามสะดวก กระทั่งโดนเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจปราบปรามอบายมุข ของจเรตำรวจแห่งชาติ ย้อนรอยจู่โจมกวาดจับนักพนันได้จำนวน 200

ปิดตำนานบ่อนอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลตำรวจนครบาลระดมกำลังปราบจลาจลกว่า 200 นายตะลุยบุกรื้อทิ้ง 2 ประตูเหล็กกลางชุมชนตรอกข้าวสาร ด่านทางเข้า"บ่อนเตาปูน"หลังจากได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่โยธาเขตบางซื่อเล่นเอาชาวบ้านฮือฮา นึกว่าบุกจับบ่อนดังอีกระลอก เผยเป็นประตูอย่างหนาเสริมพิเศษด้วยคอนกรีต น้ำหนักพันกิโลฯ หลังรื้อเสร็จยังนำหมายค้นโฉบเข้าไปดูภายในบ่อนอยู่ในสภาพรกร้าง บันทึกภาพ ภายในอาคารละเอียดยิบ หากพบหลักฐานก่อสร้างต่อเติมผิดแบบ เตรียมขุดรากถอนโคนรื้อทิ้งให้สิ้นซากแน่นอน


บุกรื้อทิ้งประตูทางเข้าบ่อนยักษ์ใหญ่เมืองกรุงครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ต.ค. นายปรีชา แย้มผึ้ง นายช่างสำรวจ 6 ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางซื่อ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ที่ สน.เตาปูน เพื่อนำหนังสือการขออนุญาตรื้อถอนประตูเหล็กทางเข้า “บ่อนคาสิโนเตาปูน” ซึ่งตั้งอยู่ภายในชุมชนตรอกข้าวสาร ถนนเตชะวนิช แขวง- เขตบางซื่อ จากนั้นนำกำลังตำรวจ 191 หน่วยปราบจลาจล ตำรวจท้องที่ สน.เตาปูน รวมกว่า 200 นาย และช่างเหล็กได้ร่วมเดินทางไปทำการรื้อถอนทันทีโดยทางตำรวจได้แบ่งแยกกำลัง กระจายเรียงรายไว้ตามจุดต่าง ๆ รอบบริเวณชุมชนตรอกข้าวสาร เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันในขณะเจ้าหน้าที่เขตบางซื่อเข้าไปรื้อประตูเหล็ก สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านและประชาชนที่ผ่านไปมาละแวกดังกล่าว เพราะส่วนใหญ่นึกว่าตำรวจบุกจู่โจมเข้ามาจับนักเล่นพนันในบ่อนอีกแล้วจึงเฝ้าจับตามองกันอย่างคึกคักสำหรับประตูเหล็ก มีทั้งหมด 2 ประตู ตั้งขวางทางอยู่ภายในชุมชน ประตูแรกอยู่ในตรอกมาลัย สามารถเข้าได้ทางฝั่งถนนเตชะวนิช ส่วนอีกประตูอยู่ในตรอกลิง เดินเข้ามาจากฝั่งคาสิโนเตาปูนแมนชั่น ภายในประตูเหล็กนิรภัยยังเทอัดด้วยคอนกรีตแน่นหนา มีขนาดความสูง 2 เมตร กว้าง 1.5 เมตร ระยะห่างระหว่างประตูเหล็กทั้ง 2 บาน ห่างกันประมาณ 200 เมตร โดยมีทางเข้าตัวบ่อนเตาปูนอยู่บริเวณกึ่งกลางของทั้งสองประตู เจ้าหน้าที่ได้ระดมช่างนำอุปกรณ์เครื่องมือตัดเหล็กถอดประตูออกอย่างทุลักทุเลเพราะด้านบนของประตูยังมีรั้วลวดหนามรวมทั้งเหล็กแหลมกีดขวางอยู่ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.เศษจึงรื้อประตูสำเร็จ แต่ต้องระดมเจ้าหน้าที่หลายสิบนายมาช่วยลำเลียงประตูไปเก็บรักษาไว้ที่เขตบางซื่อ เนื่องจากประตูมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 1,000 กก.หลังจากรื้อประตูเสร็จแล้ว ตำรวจยังนำหมายค้นศาลแขวงพระนครเหนือ เข้าตรวจสอบภายในตัวอาคารเลขที่ 269 ซึ่งเคยถูกตำรวจกองปราบปราม บุกจู่โจมเข้าไปทลายบ่อนมาแล้ว โดยมีนายณรงค์ พึ่งวรรณ รับเป็นผู้ดูแลอาคาร นำเข้าตรวจค้นภายในอาคาร มีประตูทางเข้าถึง 3 ชั้น เป็นประตูเหล็กสูง 3 เมตร ด้านบนมีลวดหนามขึงไว้ ประตูทุกบานแต่ละชั้นจะมีช่องเล็กไว้เปิดมองได้ ส่วนภายในอาคารบริเวณ ชั้นล่างเป็นห้องโถงโล่ง มีโซฟา 1 ชุด เครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น วางอยู่ 27 ตัว ส่วนบนชั้น 2 เป็นห้องโถงลักษณะเช่นเดียวกัน ตรวจค้นอย่างละเอียดไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกการตรวจค้น ทั้งนี้นายณรงค์ ผู้ดูแลอาคารดังกล่าว กล่าวว่า เช่าอาคารดังกล่าวมาจากนายสามารถ สิงห์จำนง เพื่อใช้พักอาศัยเท่านั้น โดยเหมาจ่ายเดือนละ 5,000 บาท และช่วงที่ตนมาอยู่ไม่พบว่ามีการเล่นการพนันใด ๆด้านนายปรีชา นายช่างสำรวจ 6 ฝ่ายโยธา เปิดเผยว่า ในการเข้ามารื้อถอนประตูเหล็กที่ปิดกั้นลำรางสาธารณะ จำนวน 2 บาน เจ้าหน้าที่จะนำไปเก็บไว้ที่สำนักงานเขต เพื่อรอเจ้าของมาแสดงตัวและจะเรียกเก็บค่ารื้อถอน และแจ้งข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ แต่หากไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ทางเขตจะต้องจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าวออกไป ในส่วนลวดหนามและสิ่งกีดขวางที่ติดตั้งอยู่บริเวณลำราง สาธารณะ ทางเขตจะทำเรื่องจ้างผู้รับเหมามาทำการรื้อถอนออกไปเช่นกัน ส่วนสาเหตุที่เพิ่งมารื้อถอน เนื่องจากกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการประสานจากสน.เตาปูน ว่ามีประตูปิดกั้นลำรางสาธารณะ จึงมาตรวจสอบแล้วปิดประกาศเพื่อให้ผู้ครอบครองรื้อถอนออกภายใน 15 วัน แต่พอครบ กำหนดแล้วไม่มีผู้ใดมาแสดงจึงเข้ารื้อถอนเองขณะที่พล.ต.ต.อำนวย ผบก.น.2 ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการร้องทุกข์ว่ามีการบุกรุกที่ลำรางสาธารณะ โดยมีการนำประตูเหล็กมากั้นแม้ปัจจุบันจะไม่คงสภาพเป็นลำรางสาธารณะเนื่องในปัจจุบันได้มีการเทปูนทำเป็นทางเดินสาธารณะแล้ว ก็ถือว่ามีความผิดข้อหาบุกรุกที่สาธารณะ ทางตำรวจ บก.น.2 ได้ร่วมกับตำรวจสน.เตาปูน เจ้าหน้าที่เขตบางซื่อร่วมกันรื้อถอน พร้อมถือโอกาสเข้าทำการตรวจค้นภายในตัวอาคาร ไม่พบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันคาสิโนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภายในอาคารดังกล่าวไว้อย่างละเอียด ก่อนส่งให้ทางสำนักงานเขตพิจารณาว่ามีส่วนใดที่มีการก่อสร้างผิดแบบ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หากพบว่ามีการก่อสร้างผิดแบบก็จะได้รื้อถอนต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบ่อนเตาปูน ถือเป็นบ่อนอภิมหาอมตะนิรันดร์กาลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองกรุงมานานแล้ว อยู่ท่ามกลางชุมชนตรอกข้าวสารไม่เคยมีตำรวจหน่วยใดสามารถบุกทะลวงเข้าไปจับกุมนักเล่นได้แบบคาหนังคาเขา แต่แล้วเมื่อเช้ามืดวันที่ 22 มิ.ย. 48 พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผบก.ป. ได้วางแผนแบบเหนือเมฆนานนับเดือน ใช้ชื่อแผน “The Cat” หรือปิดประตูตีแมว ส่งกำลังตำรวจคอมมานโดหลายร้อยนายปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบทั้งทางอากาศ และภาคพื้นดิน ปิดประตูทางเข้าออกของบ่อนหมดทุกด้าน ส่งกำลังโรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ลงไปในใจกลางบ่อนโดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่แฝงตัวเข้าไปมารอเปิดประตูให้ กระทั่งสามารถจับกุมนักพนันชายหญิงได้มากเกือบ 400 คน พร้อมของกลางเงินสดและชิปแลกเงินรวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท

กองปราบฯ ยกกำลังกว่า 100 นาย ลุยค้นบ่อนเตาปูน แต่วืด เจอประตูเหล็ก 3 ชั้น ต้องใช้แชลง-ค้อนปอนด์ทุบประตู ผงะเจอชาวบ้านฮือไล่ ก่อนรวบผู้ต้องสงสัย 9 คนเค้นสอบ ขณะที่ 5 เสือโรงพักเตาปูนส่อถูกเด้งเหตุการณ์ตำรวจกองปราบปราม ยกกำลังกว่า 100 นายบุกเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ่อนคาสิโนเตาปูนครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 24 สิงหาคม พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผกก.1 บก.ป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกว่า 100 นาย พร้อมตำรวจ สน.เตาปูน นำหมายค้น เลขที่ 370/2550 ศาอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2550 เข้าตรวจค้นบ่อนเตาปูน ซึ่งอยู่ในอาคารไม่มีเลขที่ ถนนเตชะวนิช แขวงและเขตบางซื่อ กทม. หลังจากสืบทราบว่า บ่นดังกล่าวยังคงลักลอบเปิดให้นักพนันเข้ามาเสี่ยงโชค โดยเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็วางกำลังเข้าปิดล้อมตามจุดต่างๆ รอบอาคารดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารได้ เนื่องจากประตูอาคารถูกปิดล็อกอย่างแน่นหนา ทำให้ต้องถอยออกมาวางแผนการบุกเข้าตรวจค้นต่อมาในเวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้แชลงและค้อนปอนด์งัดประตูเหล็กที่อยู่ด้านหน้าสุดเข้าไป จากนั้นก็เดินเข้าไปตามทาง แต่พบประตูเหล็กถูกล็อกอย่างแน่นหนาอีกชั้นหนึ่งที่หลังบ้านเลขที่ 502/43 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงงัดประตูบานดังกล่าวเข้าไปในตัวอาคาร แล้วเดินทะลุเข้าไปด้านหน้าอาคาร แต่ก็ยังมีประตูเหล็กถูกล็อกอย่างแน่นหนาอีกชั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์งัดเข้าไปก็พบตรอกทางเดินแคบๆ กระทั่งเดินเข้าไปสุดทางก็พบบ้านหลังหนึ่ง เมื่อเรียกให้เจ้าของบ้านเปิดประตูก็ไม่มีเสียงตอบ เจ้าหน้าที่จึงใช้แชลงงัดประตูบ้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังงัดประตูอยู่นั้น นางอนัญญา อ้อมวงพันธุ์ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ก็พาชาวบ้านกว่า 20 คน กรูเข้ามาห้อมล้อม พร้อมตะโกนโห่ร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในตัวบ้าน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปในตัวบ้านแล้วเดินออกไปทางหลังบ้านก็พบชุมชนแออัด ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยมีชาวบ้านจำนวนมากออกมารวมตัวกันตะโกนขับไล่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งและผู้สื่อข่าวให้ออกไปนอกพื้นที่ พร้อมตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ว่าทำการบุกรุกบ้านชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเจรจา โดยระบุว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหมายค้นอย่างถูกต้อง ไม่ได้กลั่นแกล้งชาวบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 9 คน เป็นหญิง 8 คน และชาย 1 คน โดยทั้งหมดนั่งอยู่ที่ลานจอดรถตลาดเตาปูน จากนั้นก็ควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถแท็กซี่ 3 คัน เดินทางไปตรวจสอบประวัติและสอบปากคำที่กองปราบปราม ขณะเดียวกัน การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐานใดๆ นอกจากผู้ต้องสงสัย 9 คน จึงได้ทยอยเดินทางกลับด้าน พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า บ่อนคาสิโนดังกล่าวยังคงลักลอบเล่นอยู่เป็นประจำ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น แต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัวบ่อน ก็มีชาวบ้านบางส่วนเข้ามาต่อต้าน ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ค่อนข้างลำบาก การเข้าไปจึงเสียเวลามากถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามต่อ ส่วนผู้ต้องสงสัย 9 คนได้เดินออกมาอย่างมีพิรุธ จึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ และคงจะต้องปล่อยตัวไปเพราะไม่มีหลักฐาน อย่างไรก็ตาม จะเข้าตรวจค้นใหม่อีกรอบหากมีโอกาสที่เหมาะสมขณะที่ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ สุมิตนันท์ ผกก.สน.เตาปูน กล่าวว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ กองปราบปรามได้ขอกำลังสนับสนุนจาก สน.เตาปูน เพื่อเข้าปิดล้อมบ่อนเตาปูน เพราะคาดว่าภายในบ่อนจะมีการลักลอบเล่นการพนัน จึงได้ไปขอหมายศาลเข้าตรวจค้นอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผกก.1 บก.ป. เคยนำกำลังเข้าจับกุมบ่อนในพื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาลมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พ.ต.อ.วรายุทธ นำกำลังเข้าจับกุมบ่อน "แม่โห้" ในท้องที่ สน.คลองตัน วันที่ 18 สิงหาคม นำกำลังจับกุมบ่อน "เฮียอ๋า" ในท้องที่ สน.บางโพงพาง และถัดมาอีกเพียง 4 วัน กำลังชุดเดิมก็บุกเข้าจับกุมบ่อน "เจ๊ไฝ" ในท้องที่ สน.บางเสาธง โดยการจับกุมทั้งสามครั้งทำให้ พล.ต.ท.อดิศร นนทรีย์ ผบช.น. มีคำสั่งย้าย 5 เสือโรงพักทั้งสามแห่ง มาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นเวลา 30 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีบกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนพนันในพื้นที่ ซึ่งถือว่ามีความผิดตามคำสั่ง 234/2548 เรื่อง การเข้มงวดกวดขันปราบปรามจับกุมบ่อนพนัน อบายมุขนอกจากนั้น ในวันที่ 23 สิงหาคม พล.ต.ท.อดิศร ได้สั่งกำชับในการประชุมมอบนโยบายประจำเดือนแก่นายตำรวจระดับรอง ผบก.-ผกก. ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเน้นย้ำในที่ประชุมให้ทุก สน.เร่งดำเนินการปราบปรามอบายมุขและบ่อนพนันในพื้นที่ทุกรูปแบบ รวมถึงกวดขันสถานบริการที่เปิดเกินเวลาและทำผิดกฎหมาย พร้อมยังคาดโทษว่า หากท้องที่ใดปล่อยให้ตำรวจนอกหน่วยเข้าจับกุมก็ต้องถูกลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ถัดมาเพียง 2 วัน บ่อนคาสิโนเตาปูนในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.เตาปูน


2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ตุลาคม 2553 เวลา 23:01

    www.bonus878.com บริการ24ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ12 ตุลาคม 2553 เวลา 20:58

    http://www.dig888.comเป็นเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน สามารถนำไปกำหนดในส่วนหนึ่งของ แผนการอนุรักษ์พลังงานประจำโรงงานของท่านได้ ซึ่งมิใช่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของท่านเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อการประหยัดพลังงานของประเทศโดยรวมอีกด้วย

    ตอบลบ